สุวัฒน์ จรรยาพูน
“โลกร้อน” ตอนนี้ถ้าหากผมไม่ได้กล่าวถึงก็ต้องเป็นคนตกกระแสและล้าสมัยอย่างไม่น่าให้อภัย
เนื่องจากภาวะโลกร้อนนั้นจะส่งผลกระทบทำให้สภาพอากาศแปรปรวน
ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำท่วม อากาศหนาวและร้อนผิดปกติ ภาวะโลกร้อนจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนเกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบโดยตรง
และที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือสภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นมาจากน้ำมือมนุษย์ทุกคน ซึ่งเราคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้
ดังนั้นผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคน ต้องหันหน้าเข้าหากันและจับมือร่วมกันแก้ไขปัญหานี้
หากใครติดตามข่าว
หรือได้ชมภาพยนตร์สารคดีเรื่อง an inconvenient truth ที่มีรองประธานาธิบดี
Al Gore เป็นผู้บรรยาย ก็จะทราบดีว่าสาเหตุหลักของปัญหาโลกร้อน
ก็คือ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งมนุษย์เราทุกคนเป็นผู้ทำให้ภาวะสมดุลของระบบในโลกเปลี่ยนไป หลายๆปัจจัยในการดำรงชีวิตของมนุษย์ให้สุขสบายส่งผลให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น
เรามีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ละเลยการคิดอย่างเป็นระบบด้วยความรอบคอบ ทำให้เกิดการสะสมเพิ่มขึ้นของปัญหาโลกร้อนโดยไม่รู้ตัว
แล้วเราจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร
คำตอบมีไม่อยากหรอกครับ แค่เราทุกคนรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ
และทำงานตามหน้าที่ก็ช่วยลดปัญหานี้ได้มากแล้ว
ลองดูว่าหน่วยงานของท่านมีเหตุการณ์เช่นนี้หรือไม่ กล่าวคือ มีพนักงานที่ขยันมากๆ
มาทำงานแต่เช้า และก็มีพนักงานที่ขยันไม่แพ้กันอยู่ทำงานจนดึกดื่น
ผู้บริหารต่างก็ชื่นชมพนักงานทั้งสองประเภทนี้
แต่เชื่อไหมครับว่านี่แหละทำให้โลกร้อน
เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่าทำไมต้องทำงานนอกช่วงเวลาปกติ
ระหว่างช่วงเวลาทำงานทำเต็มประสิทธิภาพแล้วหรือ เราต้องไม่ลืมว่า มีคนทำงานเพียงคนเดียวหรือมีคนทำงานทั้งแผนก
ก็เปิดไฟ เปิดแอร์ และใช้พลังงานไม่ต่างกัน
ดังนั้นการที่จะมีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อนในปัจจุบันก็คือ
ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร และคนทุกคน
ต้องเปลี่ยนแนวคิดให้มีการคิดอย่างเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ “ลอจิสติกส์” เพราะเป็นแนวทางที่สอนให้เกิดการคิดอย่างเป็นระบบ การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
และการลดต้นทุน ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ลองมาพิจารณางานของลอจิสติกส์ว่าช่วยลดปัญหาของโลกร้อนได้อย่างไร
เช่น งานด้านการขนส่งมีแนวคิดด้านการจัดการรถเที่ยวเปล่า ต้องการให้เกิดการใช้รถทั้งขาไปขากลับ
ส่งผลให้เกิดการประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง ลดการใช้พลังงาน
ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้ด้วยการวางแผนการขนส่งและการประสานงานกับคู่ค้า
นอกจากนี้งานด้านคลังสินค้าก็ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
กล่าวคือ การกำหนดระดับของสินค้าคงคลังที่เหมาะสมช่วยให้ง่ายต่อการนับสินค้า
การดูแลรักษาสินค้า ส่งผลให้ปริมาณของเสียลดลง
หรือเทคนิคการนับสินค้าโดยการจัดรอบการนับ (cycle count) ช่วยให้เกิดการแบ่งงานทำอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวันไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าล่วงเวลาให้กับพนักงาน
การมีสินค้าเมื่อลูกค้าต้องการ
นอกจากเป็นการเอาใจลูกค้าแล้ว ยังสามารถช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุนการเดินทางและการประสานงานเพื่อหาสินค้า
ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเก็บสต็อกสินค้าไว้เป็นจำนวนมาก
เกิดคุณประโยชน์มากมายจากการมีสต็อกน้อยแต่เพียงพอต่อการขาย
ดังนั้น ผมคิดว่าทุกหน่วยงานควรหันมาให้ความสนใจกับการจัดการลอจิสติกส์และโซ่อุปทาน เพราะนอกจากจะช่วยให้องค์กรเกิดการใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ การเพิ่มความสามารถในการให้บริการแก่ลูกค้า เกิดการลดต้นทุนภายในองค์กรแล้ว ยังเป็นเทคนิคที่ช่วยลดการเพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของโลกด้วย [
สนใจข้อมูลทางธุรกิจเพิ่มเติม ค้นหาข้อมูลได้ที่ หรือ
โทร. 02-5330316, 081-8304741, 085-8799468
โทรสาร. 02-5330316
โทร. 02-5330316, 081-8304741, 085-8799468
โทรสาร. 02-5330316
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น